ปัสสาวะขัด ถือเป็นหนึ่งในอาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งของโรคที่เกิดขึ้น และสาเหตุของการเกิดปัสสาวะขัด ซึ่งจะมีลักษณะอาการที่รู้สึกเจ็บหรือปวดในระหว่างที่ปัสสาวะ ในบางรายถึงขั้นปวดแสบปวดร้อนและระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ เพราะอาจติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ ท่อปัสสาวะหรือบริเวณรอบๆ อวัยวะเพศ เป็นต้น
อาการของ ปัสสาวะขัด
Table of Contents
สามารถแบ่งออกเป็นตามโรคที่เกิดขึ้น ดังต่อไปนี้
หนองใน
เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่จะเกิดที่บริเวณอวัยวะเพศเป็นหลัก และไม่ค่อยแสดงอาการที่รุนแรงแต่ก็ทำให้เกิดปัญหากามโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพทางเพศได้ แบ่งออกเป็น หนองในแท้ และหนองในเทียม ที่มีอาการแรกเริ่มคล้ายคลึงกัน เช่น
- รู้สึกเจ็บปวด และแสบขัดมากเวลาปัสสาวะ
- มีตกขาวผิดปกติ มีสีเหลืองหรือสีเขียวติดที่กางเกงใน
- มีหนองไหลออกมาจากปลายอวัยวะเพศหรือช่องคลอด
เชื้อราที่อวัยวะเพศ
เกิดจากเชื้อราชื่อ แคนดิดา (CANDIDA) เป็นเชื้อยีสต์ที่พบอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดโรคได้หากอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต จนเป็นสาเหตุให้เพศหญิงเป็นโรคเชื้อราในช่องคลอด และเพศชายเป็นโรคอวัยวะเพศอักเสบ โดยจะมีอาการแรกเริ่ม คือ
- ปัสสาวะแสบขัด และเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
- อวัยวะเพศบวม มีผื่นแดง ลามออกเป็นวงเล็กๆ
- มีตกขาวมากผิดปกติ และรู้สึกคันบริเวณช่องคลอด
กรวยไตอักเสบ
หรือ Pyelonephritis เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะจากการติดเชื้อแบคทีเรียในกรวยไต สามารถทำให้เป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะ และกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำการรักษาจะทำให้เป็นไตวายเรื้อรังได้ในที่สุด โดยจะมีอาการแรกเริ่ม คือ
- มีไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่น
- รู้สึกอ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน น้ำหนักลดลง
- ปัสสาวะแสบขัด หรือปัสสาวะออกแบบกระปิดกระปอย
- ปัสสาวะมีสีขุ่น อาจมีหนองข้นไหลออกมาจากปลายอวัยวะเพศ
ช่องคลอดอักเสบ
มักเกิดขึ้นบริเวณภายในช่องคลอด และปากช่องคลอด จากพฤติกรรมต่างๆ ที่ทำให้เกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยกับคู่นอนหลายคน การสวนล้างช่องคลอดแบบรุนแรง โดยจะมีอาการแรกเริ่ม คือ
- ตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็นอับ และระคายเคือง
- ปัสสาวะแสบขัด หรือรู้สึกแสบร้อนในช่องคลอด
- รู้สึกเจ็บ และมีเลือดออก หลังจากมีเพศสัมพันธ์
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และพบได้ในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย เพราะเพศหญิงมีท่อปัสสาวะที่สั้นกว่า จึงเสี่ยงติดเชื้อโรคต่างๆ จากด้านนอกเข้าไปด้านในได้ง่ายกว่าเพศชาย โดยจะมีอาการแรกเริ่ม คือ
- ปัสสาวะแสบขัด หรือปัสสาวะออกแบบกระปิดกระปอย
- รู้สึกเจ็บและเสียวบริเวณปลายท่อปัสสาวะตอนที่เกือบปัสสาวะเสร็จแล้ว
- ปัสสาวะมีเลือดปนออกมา และปวดปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะในตอนกลางคืน
การรักษาอาการ ปัสสาวะขัด
แพทย์จะพิจารณารักษาตามอาการของผู้ป่วย จากการวินิจฉัยโรคแรกเริ่ม ซักประวัติ อาการ และความเสี่ยงเพิ่มเติมที่จะช่วยในการรักษาอย่างตรงจุดและได้ผลมากยิ่งขึ้น แพทย์อาจเริ่มรักษาอาการปัสสาวะขัด โดยใช้ยาปฏิชีวนะ เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย หรือหากติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย จะให้ยาต้านไวรัสช่วยรักษาอาการเพื่อให้มีประสิทธิภาพและหายขาดจากโรคได้ไวขึ้น
วิธีป้องกันการเกิด ปัสสาวะขัด
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
- หลังปัสสาวะเสร็จ ควรทำความสะอาดให้เรียบร้อยทุกครั้ง
- พยายามอย่ากลั้นปวดปัสสาวะนานๆ เพราะจะทำให้อั้นไม่อยู่ได้ในอนาคต
- ไปตรวจภายใน ตรวจเอชไอวี และตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำทุกปี
- ไม่ปล่อยให้อวัยวะเพศอับชื้น และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง
- หากปวดมากและยังไม่มีเวลาไปพบแพทย์ สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการก่อนได้
- ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้วขึ้นไป จะช่วยให้อาการปัสสาว
- ลำบากลดลงได้ รวมทั้ง ช่วยขับแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะให้ออกมาได้ง่ายขึ้น
อาการผิดปกติเหล่านี้ ควรได้รับการตรวจวินิจฉัย และหาสาเหตุอย่างเร็วที่สุด หากคุณมีอาการปัสสาวะขัด แบบไม่เคยเป็นมาก่อน หรือเกิดขึ้นบ่อยจนผิดสังเกต แนะนำให้พบแพทย์เพื่อทำการตรวจให้ชัดเจน และทำการรักษาเพื่อไม่ให้ลุกลามกลายเป็นโรคร้ายหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ในอนาคตครับ